ต้นไม้ราคาแพง 2565 ที่คนดังในวงการบันเทิง ก็หันมาให้ความสนใจ

ต้นไม้ราคาแพง 2565

ด้วยเรื่องของ 1 มงคลที่มีราคาแพงที่สุด จะเป็น ต้นไม้ราคาแพง 2565 ต้นอะไรมาติดตามกัน

หากจะกล่าวถึง ต้นไม้ราคาแพง 2565 หรือ ต้นไม้ราคาหลักล้าน ซึ่งก็ต้องบอกได้เลยว่า ก็มีไม่เยอะเท่าไหร่ และเราไม่สามารถซื้อเวลาได้ แต่เราซื้อโอลีฟที่อยู่มาแล้วพันปีได้ และแน่นอนว่าต้นโอลีฟก็เป็นหนึ่งในนั้น

และหากจะถามว่า ดาราไทยคนไหน ที่ปลูกกันแล้วบ้าง ก็จะได้แก่ เจมส์ จิรายุ ใบเฟิร์น คุณหนุ่มกรรชัย คุณหมากและคุณคิม ซึ่งคนแรกก็จะเป็น คุณอั้มพัชราภา และอาจจะถามว่าราคาจะตกไหม หรือว่าเก็บไว้เป็นการลงทุนได้หรือเปล่า ต้องบอกเลยว่าเดี๋ยวนี้ โอลีฟอายุเยอะ ๆ เนี่ยแทบจะนำเข้าไม่ได้แล้ว

และแน่นอนถ้านำเข้าไม่ได้ ก็จะกลายเป็นแร์ไอเทมทันที 10ต้นไม้ราคาแพง มันแน่นอนว่า ราคามันก็จะสูงขึ้น สำหรับยอดขายต่อเดือน ของร้านที่เราไปสำรวจ ก็จะอยู่ที่ 50-60 ต้น ซึ่งมีเป็นยอดขายต่อเดือนเท่านั้น ถึงจะมองว่ามีเพียงไม่กี่ต้น แต่ร้านนี้นั้นก็ปลูกต้นไม้ทุกวัน บางต้นนั้นก็มีราคา 68,000 บาท

สำหรับต้นที่มีอายุพันปีนั้น ก็อยู่ที่ราคา 660,000 บาทกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าถึงแม้เรา จะไม่สามารถเอาเงินไปซื้อเวลาได้ แต่เงินนั้นก็สามารถ ไปซื้อเวลาที่จับต้องได้

มันเริ่มต้นจากการที่ อลิสเริ่มไถ IG และดันไปเจอว่า พวกเขาปลูกต้นไม้ชนิดหนึ่ง นั่นก็คือต้นโอลีฟ ต้นไม้ราคาแพง 2565

ซึ่งการที่เราไถ IG ไปเจอ ไลฟ์สด ขายเจ้าต้นไม้พวกนี้ ทำเอาน่าสนใจมาก ส่วนเจ้าต้นโอลีฟเนี่ย ก็จัดอยู่ใน 10 อันดับ ต้นไม้ที่แพงที่สุดในโลก และถือเป็นไม้มงคลค่ะ บ้านไหนรวย บ้านไหนดัง เขาจะปลูกโอลีฟ เรียกได้ว่าเป็นไอเทมลับอีกอันหนึ่งของบ้านคนรวย

และสาเหตุที่ดารา และคนส่วนใหญ่ มักจะปลูกก็เพราะว่า มันเป็นไม้มงคลนี่เอง ด้วยความเชื่อที่ว่า คนที่ปลูกนั้นจะมีอายุที่ยืน แล้วก็มีสิทธิเสรีภาพ สำหรับเรื่องของอายุยืนนั้น คงจะเข้าใจได้ไม่ยาก โดยส่วนใหญ่แล้ว ต้นโอลีฟที่มีอายุมาก ก็จะมากถึงพันปีนั่นเอง และสำหรับต้นโอลีฟนี้ ก็จะเป็นต้นเดียวกันกับ ที่ใช้ทำมงกุฎโอลีฟในงานโอลิมปิก

ซึ่งจะมีลักษณะเป็นช่อมะกอก ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็น สัญลักษณ์ของสิทธิและเสรีภาพ ต้นไม้ชนิดนี้ ค่อนข้างมีความพิเศษของลายไม้ และส่วนของสีใบก็เป็น silver Green และจะเป็นของแต่ละต้นเฉพาะตัวเลย ก็แลเป็นสีเงินเทาสวยงาม

ต้นไม้ราคาแพง 2565

หรือเรียกได้ว่า มีความเป็นสีเงินมีความเป็นสีเทานั่นเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะนำเข้ามาจากประเทศสเปน แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ ประเทศสเปนเท่านั้น นอกเหนือจากสเปนก็จะมี ประเทศอิตาลีแล้วก็เนเธอร์แลนด์ หรือแม้แต่ประเทศกรีซก็มีเช่นกัน สำหรับทางยุโรปแล้ว ก็จะปลูกเป็นไม้พื้นเมืองเลยทีเดียว

เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นตัวลูก หรือว่าตัวลำต้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด สำหรับลูกนั้น ก็จะนิยมรับประทานในค็อกเทล หรือว่าจะเป็นตัวน้ำมันมะกอก สำหรับสภาพอากาศ ในเมืองไทยนั้น ก็มักจะไม่ค่อยติดผลเท่าไหร่ การที่จะมีลูกมะกอกได้นั้น จะต้องอยู่ในอุณหภูมิ 14 องศา

ถ้าจะปลูกเพื่อหวังผลนั้น ก็แนะนำว่าไปซื้อกินง่ายกว่า สำหรับการเจริญเติบโตของต้นนี้นั้นก็ เป็นต้นไม้ที่โตช้าอย่างมาก และถ้าหากเป็นต้นไซส์ใหญ่ที่อายุ 200-300 ปี เราแทบจะไม่เห็น ความต่างของการเจริญเติบโตเลย ซึ่งก็จะนำเข้าจากสเปน นำเข้าจากสวนโอลีฟที่เขาทำเป็นฟาร์มเลี้ยง

นั่นหมายความว่า เขามีต้นที่มีอายุมากอยู่แล้ว คนที่จะซื้อมาขายก็ต้องไปล้อมมา หลังจากที่เริ่มได้รับความนิยม ดาราหรือว่าเซเลบ ก็หันมาเล่นกันเยอะ และยอดขายต่อเดือน ก็อยู่ที่ 50-60 ต้น โดยประมาณ ต้นที่มีราคาแพงที่สุด ก็อยู่ที่ 950,000 บาท

แต่สำหรับต้นยอดฮิตนั้น ก็จะมีราคาอยู่ที่ 100,000 ถึง 200,000 บาท ซึ่งราคาที่ขายได้ต่อเดือนนั้น ก็อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท และหากจะมองว่า ต้นพันปีนั้นมีราคา 6 แสนกว่าบาท ก็นับว่าไม่ใช่ราคาที่แพงเท่าไหร่นัก เฉลี่ยปีละไม่กี่บาท และความสวยของต้น Olive

ก็จัดดูกันที่ลำต้น ลำต้นก็จะมีความบิดเกลียว และจะมีลีลาเฉพาะตัว สำหรับต้นที่มีอายุ 400 ปี พอจะมีราคาอยู่ที่ 185,000 บาท และหากกังวลว่าปลูกไปแล้ว จะตายไหม ทางร้านนี้ก็มีประกันให้ด้วยนะ ยกตัวอย่างบางต้นนั้น มีประกันให้จำนวน 6 เดือน โดยที่ทางร้าน จะนำไปปลูกที่บ้านเรียบร้อย

ถ้าเกิดต้นโอลีฟตาย ก็จะมาปลูกให้ใหม่ฟรี หรือเรียกได้ว่าเปลี่ยนต้นให้เลย สำหรับคนที่มีอายุ 50-60 ปี ก็จะมีราคาไม่แพงมากอยู่ที่ 29,000 บาท ก็ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ มั่นใจได้เลยว่า หากใครที่ปลูกต้นไม้นี้ ในอนาคตย่อมเป็น ต้นไม้ราคาแพงในอนาคต ได้อย่างแน่นอน

หากคุณเลี้ยงมันอย่างดี และมันไม่ตาย การจะดูอายุของต้นนี้ก็จะดูได้จากเส้นรอบวง หรือว่าวงปีของไม้นั่นเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ก๋มักจะดูกันในขณะที่ไปล้อมต้นไม้นั้น ๆ มา และสำหรับข้อจำกัด ในการปลูกต้นมะกอกโอลีฟนี้ ก็ถือว่ามีไม่เยอะเท่าไหร่นัก

จุดเด่นของ ต้นมะกอกโอลีฟนั้น ต้นไม้ราคาแพงในอนาคต เป็นอย่างไรและมีอะไร ที่น่าสนใจบ้าง

ต้นไม้ราคาแพงในอนาคต

โดยที่ข้อดีข้อแรก ของต้นมะกอกโอลีฟนี้ ก็คือความโตช้าของมัน หากคุณซื้อฟอร์มไหน ของต้นนี้ไปแล้ว ก็มักจะอยู่ฟอร์มนั้นเลย แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง และอาจจะถามว่า แล้วรากของมันมีผลเสียอย่างไรบ้าง มั่นใจได้เลยว่าคนส่วนใหญ่ ย่อมมองว่ารากของต้นไม้ใหญ่นั้น เมื่อปลูกไปนาน ๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน

เนื่องจากรากของต้นไม้ ที่นานวันเข้าก็จะชอนไชย เข้าไปภายใต้โครงสร้าง แต่สำหรับต้นมะกอกโอลีฟ ไม่ได้เป็นแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น แต่กลับเป็นต้นไม้ที่ไม่มีรากแก้ว ต้นมะกอกโอลีฟจัดเต็ม ไปด้วยรากฝอย ส่งผลให้ ต้นไม้ ชนิดนี้ สามารถที่จะอยู่ใน สิ่งปลูกสร้างที่เป็นพื้นที่บังคับได้

ซึ่งเป็นคำแนะนำ ของพี่แบงค์ จากร้าน Olive De Casa มาต่อกันที่ร้านหนึ่งกับร้าน Olive Garden Thailand and Exotic Tree ซึ่งนอกจากจะมีต้นโอลีฟแล้ว ยังมีต้นไม้แปลก ต้นไม้หายากหรือว่าแรร์ไอเทม สำหรับโอลีฟพันปี ที่นี่ก็จะมีราคาหลักแสนเช่นกัน

ซึ่งความจริงแล้ว ต้นมะกอกโอลีฟ ก็มีหลายสายพันธุ์

สายพันธุ์หลัก ๆ ที่คนไทยนิยมก็จะเป็น Hojiblanca ซึ่งจะมีใบสีเทาเงิน และชื่อสายพันธุ์ของ ต้นมะกอกโอลีฟนี้ ยังเป็นชื่อแคว้นด้วย จัดได้ว่าเป็น ไม้เศรษฐกิจ ราคาแพงที่สุด เลยก็ว่าได้และตามชื่อแคว้นได้แก่ แคว้นอันดาลูเซีย แคว้นวาเดอซา ยกตัวอย่างดาราไทย ที่ซื้อจากร้านนี้ก็คือ คุณอั้มพัชราภา

ซึ่งคุณอั้มพัชราภา ก็ซื้อต้นอายุ 400 ปีไปนั่นเอง ราคา 6 หลักแต่ก็ไม่ถึงเลข 2 ก็เรียกได้ง่ายว่า แสนกว่าบาท ก็ถือเป็นราคาที่จับต้องได้ อีกคนนึงก็เป็นหมอเจี๊ยบ ลลนา ก็ซื้อที่ร้านนี้เช่นเดียวกัน ซื้อต้นอายุ 3 – 400 ปีเช่นเดียวกัน แต่เป็นคนละทรงกับของคุณอั้ม

และสำหรับมะกอกทุกแบบนั้น จัดเป็นพืชที่ปลูกง่ายดูแลง่าย ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านก็ดูแลได้ คนที่มีอายุ 1,500 ปี ก็ไม่ให้นำเข้ามาแล้ว เนื่องจากเริ่มมีการอนุรักษ์ตาม แนวโน้มตลาดต้นไม้ 2565 อย่างต้นที่นำเข้ามานั้น โดยส่วนใหญ่ก็ขุดจาก ในป่าไม่ได้ปลูกเอง

และหมายความว่า ต้นมะกอกโอลีฟ ก็เป็นไม้ที่สามารถลงทุนได้ โดยสามารถ เช็คราคาต้นไม้ 2565 ตามแหล่งข้อมูลที่คุณเชื่อถือได้ สำหรับร้านนี้นั้นก็จากนำเข้าจากประเทศสเปน เป็นหลักอีกเช่นกัน และก็จะมีอิตาลี แล้วก็กรีซ ผสมมาด้วยเช่นเคย

แนวโน้มตลาดต้นไม้ 2565

และสาเหตุที่นำเข้า มาจากสเปนนั้น ก็เนื่องมาจากที่ประเทศสเปน มีต้นไม้ชนิดนี้เยอะ โดยส่วนใหญ่คนที่พื้นที่ไม่มากนัก ก็มักจะปลูกต้น 200 ปีถึง 300 ปี สรุปง่าย ๆ ว่า 300 ปีนั้น ก็เริ่มขึ้นหลักแสนกันแล้ว สำหรับต้นไม้ชนิดนี้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของต้นนั้น ๆ ด้วย และฟอร์มที่สวยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าชอบฟอร์มแบบไหน

หน้างานของลูกค้าเป็นยังไง พื้นที่ของลูกค้าก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าชอบเลย ลูกค้าที่ซื้อมาปลูกนั้น ที่ซื้อไปปลูกก็เพราะ เป็นไม้ที่มีความเป็นสิริมงคลนั่นเอง และมะกอกเป็นเครื่องหมายของความโชคดีสากล เป็นเรื่องของชัยชนะ เพราะว่าเทพอะธีน่า มอบต้นมะกอกให้กับเมืองเอเธนส์

การดูแลต้นไม้ชนิดนี้ มีความยากง่ายมากน้อยแค่ไหน

ด้วยความที่ต้นไม้ชนิดนี้นั้น มีร่มเงาที่ใหญ่ มีความทนทานในทุกสภาพอากาศ ไม่มีความจำเป็นต้องรดน้ำบ่อย สามารถส่งเสริมในด้านโชคลาภ ทั้งยังทำให้โชคดีและสุขภาพที่แข็งแรง บวกกับอายุที่ยืนยาว และรูปทรงที่หลากหลายและสวย ก็เลยเป็นเหตุให้หลายคนนั้นนิยม นำไปเป็นไม้ประธานในสวนนั่นเอง

สำหรับต้นนี้นั้น ก็จัดอยู่ในวงศ์ Oleaceae สำหรับต้นกำเนิดของมัน ก็อยู่ในประเทศในแถบ เมดิเตอร์เรเนียนนั้นเอง จากนั้นก็จะนำไปปลูก ในฝั่งยุโรปบ้างอเมริกาบ้าง แล้วก็เอเชียกลาง และแน่นอนในไทยนั้น ก็จะนำเข้ามาทั้งหมด สำหรับลักษณะโดยทั่วไป ก็เป็นไม้ยืนต้นแบบไม่ผลัดใบนั่นเอง

โดยส่วนใหญ่ลำต้น ก็จะมีสีเทาขาว และโดยส่วนใหญ่แล้ว ต้นที่สูงมากที่สุดก็จะมากถึง 2 เมตร เป็นต้นไม้ใบเลี้ยงเดี่ยว ที่โดยส่วนใหญ่แล้วสีเขียวมักจะอยู่ด้านบน แน่นอนว่าด้านล่างก็จะต้องเป็นสีเทา ใบไม้จะมีลักษณะคล้ายกับรูปหอก ใบมีลักษณะแหลมและมน

ก้านใบตัดสั้นและขอบเรียบ และบริเวณซอกใบ ก็จะออกดอกเป็นช่อนั่นเอง สำหรับคนนั้นก็จะรูปร่างกลมรี ซึ่งจะเป็นผลสด ดอกนั้นมีสีขาวครีม และผลดิบก็จะมีสีเขียว สำหรับต้นที่ถูกแล้ว ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลแดง และสุขมากที่สุดก็จะเป็นสีม่วง รสชาติของลูกนั้น ก็จะมีความฝาดเล็กน้อย

ก็มักจะเห็นในเมนูสลัดอยู่บ่อย ๆ แน่นอนว่าหากเป็นไม้มงคล ก็มักจะส่งผลในทางฮวงจุ้ย ซึ่งมีความหมายว่า จะได้รับความมั่งคั่งในชีวิตของคุณ กระทำการสิ่งใดก็จะสำเร็จ มาพร้อมกับความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้า ให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของ และคนในบ้านอีกด้วย

และการแข่งขัน โอลิมปิกในยุคโบราณ ก็จะมีมงกุฎที่ทำจากใบมะกอกโอลีฟ จัดได้ว่าเป็น ต้นไม้ราคาดี อีกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ และสำหรับธงของ สหประชาชาติ ก็มีช่อของมะกอกโอลีฟเป็น signature นั่นเอง ซึ่งก็หมายถึงเสรีภาพแล้วก็มิตรภาพยังไงล่ะ

สำหรับการขยายพันธุ์ ของต้นมะกอกโอลีฟ โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็ใช้วิธีการปักชำเป็นอันดับแรก อันดับต่อมาก็เป็นการตอนกิ่ง และที่น่าสนใจก็คือ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ วิธีที่น่าสนใจและนิยมมากสุด ก็จะเป็นการปักชำ ไม่ว่าจะปลูกลงดิน หรือว่าปลูกในกระถาง ก็สามารถทำได้

แต่หากต้องการต้นไม้ ที่โตใหญ่และโตเร็ว ก็ควรจะปลูกลงดิน หากจะปลูกจำนวนหลายต้น ในพื้นที่เดียวกัน ควรจะมีระยะห่างอย่างน้อย 6 เมตร และดินที่สมควรปลูกที่สุด ก็ควรจะเป็น ดินร่วนปนทรายนั่นเอง และควรปลูกในที่มีแดดจัดด้วย ตรงไหนที่โดนแดดได้ทั้งวัน ก็ถือว่าดีมากที่สุดเลยล่ะ

สำหรับการป้องกันใบไม้นั้น ก็เพียงแค่ใช้น้ำพรมใบเท่านั้น หากไม่ค่อยโดนแดดเลย การเจริญเติบโตของต้นและใบก็จะช้า การรดน้ำนั้นรดน้ำตามปกติ เพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น เหมือนต้นไม้ปกติทั่วไป แต่ก็ไม่ควรให้ดินแฉะมากจนเกินไป หรืออาจจะเว้นไว้ 3-4 วันแล้วค่อยลดก็ได้เช่นกัน

หากเช็คว่าดินนั้น มีความชื้นมากเพียงพอ หากปลูกในที่บริเวณไม่ถูกแดดจัด ก็ควรจะลดปริมาณของการให้น้ำ ผลผลิตของต้นนี้ ก็จะให้ได้ตั้งแต่ 5 ถึง 7 ปีขึ้นไป การดูแลนั้น ก็ถือว่าไม่ยากมากนัก ถือว่าดูแลง่ายเลยแหละ สำหรับต้นไม้ที่ชอบแดด และไม่ต้องการน้ำมากเท่าไหร่นัก

หากปลูกในกระถางก็ไม่ควร ให้มีน้ำขังควรจะให้มีรูระบายน้ำบ้าง สูตรสำหรับใส่ปุ๋ยนั้นก็จะเป็นสูตร 16-16-16 ไม่จำเป็นต้องใส่มากนัก เพื่อไม่ให้ต้นไม้มีใบไหม้นั่นเองค่ะ

เอาล่ะ ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อลิสคิดว่าก็คงอยากจะมีต้นไม้สวย ๆ ความหมายดี ๆ ไม้ประดับราคาแพงที่สุด ปลูกไว้ที่บ้านสักต้นแน่ ๆ แล้วพบกันใหม่ได้ ในครั้งหน้าอลิสจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักต้นไม้พันธุ์บ้าน ๆ สำหรับบ้านที่เลี้ยง ไก่ชน หรือสัตว์เล็ก ๆ มาดูกันว่าจะเป็นพันธุ์ไหน อย่าลืมติดตามนะคะ

เขียนโดย อลิส